สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะดำเนินการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งเศรษฐกร 4 ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 0708.4/ว1 ลงวันที่ 12 มีนาคม 2536 จึงประกาศรับสมัครคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ ดังต่อไปนี้
1. ตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง และเงินเดือนที่จะได้รับ
ตำแหน่งเศรษฐกร 4 อัตราเงินเดือน 9,700 บาท หรือตามที่ ก.พ. กำหนดจำนวน 5 อัตรา
2. คุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการคัดเลือก
ผู้ สมัครต้องมีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ประกอบกับมาตรา 131 และ มาตรา 132 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง คือ
2.1 ได้รับปริญญาโทในประเทศหรือต่างประเทศทางเศรษฐศาสตร์ การเงินการคลัง บัญชี บริหารธุรกิจ
2.2 ได้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) และภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) ของ ก.พ.
สำหรับ พระภิกษุหรือสามเณรทางราชการไม่รับสมัครและไม่อาจให้เข้ารับการคัดเลือก เพื่อบรรจุเข้ารับราชการ ทั้งนี้ ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ นว 89/2501 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2501 และตามความในข้อ 5 ของคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ 17 มีนาคม 2538
3. การรับสมัคร
3.1 วัน เวลา และสถานที่รับสมัคร
ผู้ ประสงค์จะสมัครขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานเลขานุการกรม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3154, 3136 ตั้งแต่วันที่ 3 – 21 พฤศจิกายน 2551 ในวันและเวลาราชการ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการสมัครเข้ารับการคัดเลือก
3.2 หลักฐานที่ต้องยื่นพร้อมใบสมัคร
(1) รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ ขนาด 1.5 x 2 นิ้ว โดยถ่ายครั้งเดียวกันไม่เกิน 1 ปี (นับถึงวันปิดรับสมัคร) จำนวน 3 รูป
(2) สำเนาปริญญาบัตร และสำเนาระเบียนแสดงผลการเรียนที่แสดงว่าเป็นผู้มีวุฒิการศึกษาตรงกับ ตำแหน่งที่สมัคร จำนวน 2 ฉบับ โดยจะต้องสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวันปิด รับสมัคร คือ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2551 และสำเนาระเบียนแสดงผลการเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 1 ฉบับ พร้อมนำหลักฐานการสอบผ่านภาค ก. และภาค ข. ของ ก.พ. มาด้วย
ใน กรณีที่ไม่สามารถนำหลักฐานการศึกษาดังกล่าวมายื่นพร้อมใบสมัครได้ ก็ให้นำหนังสือรับรองคุณวุฒิที่สถานศึกษาออกให้โดยระบุสาขาวิชาที่สำเร็จการ ศึกษาและวันที่ที่ได้รับอนุมัติปริญญาบัตร ซึ่งจะต้องอยู่ภายในกำหนดวันปิดรับสมัครมายื่นแทนก็ได้
(3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือทะเบียนบ้านอย่างใดอย่างหนึ่ง จำนวน 1 ฉบับ
(4) สำเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสำคัญการสมรส (เฉพาะผู้สมัครเพศหญิง) ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ในกรณีที่ชื่อ-นามสกุลในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน) อย่างละ 1 ฉบับ
ทั้งนี้ ในสำเนาหลักฐานทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนคำรับรองว่า สำเนาถูกต้องและลงชื่อกำกับไว้ด้วย สำหรับผู้ที่ได้รับคัดเลือกเมื่อจะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการ จะต้องนำใบรับรองแพทย์ซึ่งออกให้ไม่เกิน 1 เดือน และแสดงว่าไม่เป็นโรคที่ต้องห้ามตามกฎ ก.พ. ฉบับที่ 3 (2535) มายื่นด้วย
4. การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก กำหนดวัน เวลา สถานที่และระเบียบเกี่ยวกับการคัดเลือก
สำนัก งานเศรษฐกิจการคลังจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก และกำหนดวัน เวลา สถานที่ และระเบียบเกี่ยวกับการคัดเลือก ให้ทราบในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551
ณ ป้ายประกาศสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ชั้น 1 และ Website ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
www.fpo.go.th 5. หลักสูตรและวิธีการคัดเลือก
สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะดำเนินการคัดเลือกโดยวิธี ดังนี้
5.1 ทดสอบความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางด้านการ เงิน การคลัง การออม และเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยการสอบข้อเขียน (100 คะแนน)
5.2 ประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง โดยการสอบสัมภาษณ์ (100 คะแนน)
ทั้ง นี้ จะดำเนินการสอบข้อเขียนก่อน ผู้ที่สอบผ่านข้อเขียนต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 จึงจะมีสิทธิสอบสัมภาษณ์
6. เกณฑ์การตัดสิน
ผู้ ที่จะถือว่าเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกจะต้องเป็นผู้สอบผ่านข้อเขียนและสัมภาษณ์ โดยได้คะแนนสัมภาษณ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
7. การประกาศขึ้นบัญชีผู้ได้รับคัดเลือก
7.1 สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะประกาศบัญชีผู้ได้รับคัดเลือก โดยเรียงลำดับที่จากผู้ได้คะแนนสูงลงมาตามลำดับ ในกรณีที่ผู้ได้รับคัดเลือกได้คะแนนเท่ากันให้ผู้ที่ได้รับเลขประจำตัวสมัคร เข้ารับการคัดเลือกก่อนเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า
7.2 บัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกจะขึ้นบัญชีไว้เป็นระยะเวลา 3 เดือน
8. การบรรจุและแต่งตั้ง
8.1 ผู้ได้รับคัดเลือกจะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ในบัญชีผู้ได้รับคัดเลือก
8.2 ผู้ที่ได้รับคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งดังกล่าวต้องอยู่ ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ได้รับบรรจุและแต่งตั้งเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยห้ามโอนไปส่วนราชการอื่น เว้นแต่ลาออกจากราชการ หรือไม่ผ่านการประเมินผลการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ
